สงครามล้างเผ่าพันธุ์ในยูโกสลาเวีย ยูโกสลาเวีย กลายเป็นรัฐสังคมคอมมิวนิสต์ที่ค่อนข้างทันสมัย และมีความสมานฉันท์กันในองค์กร ภายใต้การนำของ โยซิบ บรอซ ติโต ชาวเซอร์เบีย ในปี 1980 บิดาแห่งสหพันธภาพยูโกสลาเวียถึงแก่ชีวิต หลังจากการตายของเขา ยูโกสลาเวียค่อนข้างไขว้เขวเนื่องจากไม่มีใครมาแทนตำแหน่งของ โยซิบ บรอซ ติโต ได้ จึงมีการใช้ระบบผู้นำแบบหมุนเวียน โดย ผู้นำทั้งหมดของสาธารณรัฐทั้ง 6 จะผลัดมารับตำแหน่งผู้นำประเทศ 1 คน มีวาระ 1 ปี และคนที่เหลือก็ปกครองในเขตของจน
สงครามล้างเผ่าพันธุ์ในยูโกสลาเวีย กลายเป็นรัฐสังคมคอมมิวนิสต์ที่ค่อนข้างทันสมัย
สาเหตุพื้นฐานที่ทำให้พวกเขานั้นแตกแยก นั่นคือ ความแตกต่างของภาษา ศาสนา และชาติพันธุ์ อีกทั้งเรื่องของเศรษฐกิจ โดยพวกเขาเคยเป็นดาวเด่นของประเทศคอมมิวนิสต์ แต่หลังจากสงครามเย็นเบาบางลง ทำให้เงินที่พวกเขาได้แบบลับ ๆ จากทางสหรัฐอเมริกา และสหภาพโซเวียต ที่ต่างฝ่ายต่างให้ทั้งเงินกู้ กับเงินให้เปล่าเพื่อที่ทางยูโกสลาเวียนั้นจะประกาศจุดยืนเคียงข้างฝ่ายใดฝ่ายนึง นั่นจึงเป็นเหตุผลให้เงินพวกเขาลดน้อยลงเรื่อย ๆ หนำซ้ำปัญหาต่าง ๆ ที่เคยมีก็เหมือนจะประทุขึ้นมา
นอกจากนี้ทั้งความแตกต่างทั้งการอยู่อาศัย และเศรษฐกิจของรัฐทั้ง 6 ยิ่งมีความแตกต่างกันมากกว่าเดิม รายได้ของ สโลเวเนีย ซึ่งเป็นรัฐทางตอนเหนือสูงกว่ารายได้มณฑลปกครองต้นเองถึง 8 เท่า ส่วนมณฑลปกครองตัวเองมีรายได้ความเป็นอยู่ที่ยากจนถึงแม้จะอยู่ในประเทศเดียวกันก็ตาม
รอยร้าวครั้งแรก เกิดขึ้นเพราะเขตปกครองอิสระ ‘โคโซโว่’ เป็นมณฑลปกครองตนเอง ภายใต้การปกครองของรัฐเซอร์เบีย โคโซโว่ เป็นคนกลุ่มใหญ่ คือชาวอัลแบเนียล ต้องการแยกตัวออกไปอยู่กับประเทศอัลแบเนียล โดยที่รัฐต่าง ๆ ของยูโกสลาเวียได้รับเงินสนับสนุน แต่โคโซโว่ไม่ได้รับเงินสนับสนุน จึงมีการเคลื่อนไหวทางการเมืองมากยิ่งขึ้น และมีการใช้กำลังเข้าปราบปราม
ในปี 1987 เซอร์เบียได้ผู้นำคนใหม่ คือ สโลโบดาน มิโลเซวิช เพื่อเข้ามาแก้ปัญหาของชาวโคโซโว่ และแสดงจุดยืนปกป้องชาวเซอร์เบีย นั่นทำให้เขาเป็นจุดสนใจ และทำให้มีชื่อเสียง สโลโบดานมองเห็นว่า ชาวเซอร์เบียเป็นชาติพันธุ์ที่มากที่สุดทั้ง 6 รัฐ เขาตั้งใจให้ชาวเซอร์เบียเป็นฐานในการที่จะดำเนินการใช้อำนาจเด็ดขาดทั้งประเทศ นั่นคือ ให้ชาวเซอร์เบียเป็นใหญ่ที่สุดในประเทศ
จุดเริ่มต้นโศกนาฎกรรม เริ่มที่ เซอราเจโว่ นำโดยราโดวาน คาราดิช ผู้นำฝ่ายเซอร์เบีย และผู้นำทางการทหาร รัตโก มาลาดิช เขาใช้กองทัพแห่งสาธารณรัฐปาสกา กลุ่มปาสกาได้มีการล้างเผ่าพันธุ์ชาวมุสลิมบอสเนีย นับเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ของสงครามล้างเผ่าพันธุ์ และทำให้ประชากรมากกว่า 2 ล้านคนต้องอพยพย้ายถิ่นฐาน และนับว่าเป็นการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ที่โหดเหี้ยมที่สุดหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ก็ว่าได้
🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃🎃 🎃 🎃
พิพิธภัณฑสถานน่าสนใจ คลิก พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติน่าน
เครดิต ufa168bet
🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃🎃 🎃 🎃
