โศกนาฎกรรมยุคกรีกโบราณ

วันนี้เราจะมาพูดถึง โปเปร่า หรือจะเรียกอีกอย่างนึงว่าโอปะรากร ศิลปะการแสดงที่มีภาพลักษณ์ที่ดูอ่าหรูหรา เนื่องจากบทเพลงที่ทมีความไฟเราะ และดนตรีประกอบที่มีความยิ่งใหญ่นำไปสู่ โศกนาฎกรรมยุคกรีกโบราณ แต่ความจริงแล้วการแสดงในรูปแบบนี้นั้นมีจุดเริ่มต้นมาจากตำนานหรือว่าจุดเริ่มต้นต่างๆ ที่มักจะไม่ค่อยสมหวังในตอนท้ายเท่าไหร่นัก แต่ละเรื่องที่ได้มีการหยิบยกมารทำการแสดงนั้น ล้วนแล้วแต่จบลงด้วยความไม่สมหวังของตัวละคร วันนี้แอดมินก็เลยรวบรวมข้อมูลเพื่อที่จะให้ทุกท่านได้รู้จักกับโอเปร่ากันให้มากขึ้นค่ะ แล้วแอดมินก็ขอฝากให้ไปติดตาม อินเดียนแดง ชนเผ่ากลุ่มนี้มาจากไหน กันด้วยนะคะ แล้วแอดมินก็ต้องขอขอบคุณ คาสิโนออนไลน์ ด้วยนะคะ

โศกนาฎกรรมยุคกรีกโบราณ การแสดงโอเปร่าศิลปะสุดอลังการ

โศกนาฎกรรมยุคกรีกโบราณ
การแสดงอลังการมาก

ในช่วงปีทศวรรษ 1580 ประเทศอิตาลีกลุ่ม Camera ซึ่งเป็นกลุ่มนักดนตรีและชาวเมือง ได้คิดคนการแสดงรูปแบบหนึ่งขึ้นมา โดยได้รับแรงบันดาลใจมาจากละครโศกนาฏกรรมลุกยุคกรีกโบราณ นำมาผสมผสานเข้ากับดนตรีจึงเกิดเป็นการแสดงที่เรียกว่าโอเปร่า หรือว่าโอพารากอนขึ้นมาการแสดงโอเปร่าจะดำเนินเรื่องจากการร้องเพลงเป็นหลัก และมีบทสนทนาแทรกขึ้นมาในเนื้อเพลง ส่วนเนื้อเรื่องที่ใช้ในการแสดงนั้นจะใช้มาจากประกรณัมกรีก

และมักจบลงด้วยความไม่สมหวังของตัวละครเช่นเรื่อง Orfeo opera  ซึ่งเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับออฟฟิศกู๊ด นักเล่นพิณหนุ่มที่เดินทางไปยังยมโลก และทวงคืนวิญญาณของภรรยาของเขา และเรื่องราวของ Dafne ซึ่งเป็นเรื่องราวของนางไม้ที่เทพอพอลโลตกหลุมรัก นอกจากนี้ยังมีเนื้อเรื่องอิงประวัติศาสตร์ด้วย เช่นพิธีสวมมงกุฎของป๊อบเปีย เป็นเรื่องราวความรักระหว่างจักรพรรดิเนโร และป็อปเปีย โดยอิงมาจากประวัติศาสตร์จริงที่เกิดขึ้นในยุคจักรวรรดิโรมัน จนกระทั่งปี 1637 ก็ได้มีการสร้างโรงอุปรากรของโลกในที่นครเวนิสประเทศอิตาลีได้ชื่อว่า Teatro di san Cassiano

โศกนาฎกรรมยุคกรีกโบราณ
วงดนตรี

ในช่วงศตวรรษที่ 17 มีการประพันธ์บทร้องเดี่ยวที่มีชื่อเรียกว่า อาเรีย ซึ่งกลายมาเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของโปเปร่า เพราะนอกจากการร้องเพลงแล้ว นักแสดงต้องถ่ายทอดความรู้สึกจากตัวละครออกมาผ่านบทเพลงดังกล่าวด้วย แล้วก็ได้แพร่กระจายจากอิตาลีไปยังประเทศอื่นๆในยุโรป ซึ่งโอเปร่าในแต่ละประเทศก็จะมีเอกลักษณ์ที่แตกต่างกันออกไป ได้แก่ที่ฝรั่งเศสจะมีดนตรีและการเต้นรำไม่ได้เน้นความอลังการ ส่วนอังกฤษจะพัฒนามาจากงานเลี้ยงสวมหน้ากาก

แต่เดิมบทนักร้องโปเปร่าจะใช้นักร้องหญิงล้วน ทั้งบทของพระเอกและนางเอก ต่อมาในช่วงศตวรรษที่ 18 ก็ได้ให้นักร้องชายเข้ามาร้องเพลงและเริ่มเข้ามามีบทบาทของตัวละครชายมากขึ้น และในยุคนี้ก็ได้มีนักประพันธ์ที่มีชื่อเสียง เกิดขึ้นมากมาย นักแสดงบางคนก็ได้แต่งเพลงประกอบการแสดงโอเปร่าด้วย เช่น Wolfgang Amadeus Mozart

🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸 🎸