รากฐานความสำเร็จของสิงคโปร์บนเวทีโลก

รากฐานความสำเร็จของสิงคโปร์บนเวทีโลก หลังจากที่ถูกขับออกจากมาเลเซีย สิงคโปร์ได้กลายเป็นประเทศเอกราชอีกครั้ง และต้องเจอกับปัญหาใหญ่นั่นคือ การถอนกำลังกองทัพเรือของอังกฤษ หากไม่มีกองทัพเรือ ประเทศก็ไม่สามารถเดินหน้าต่อได้ ในขณะนั้นทางอังกฤษได้ให้เงินแก่ลีกวนยูเพื่อพัฒนาประเทศประมาณ 50 ล้านปอนด์ แต่เทียบกันแล้วน้อยนิดที่จะนำมาพัฒนาประเทศได้

หากอ่านประวัติศาสตร์ต่างประเทศแล้วทุกท่านสนใจอยากศึกษาสถานที่ต่าง ๆ ในประเทศไทย แอดมินขอแนะนำ พระธาตุโพนจิกเวียงงัว ที่จังหวัดหนองคายของเรานั่นเอง และต้องขอขอบคุณทาง เว็บ 168 ที่ให้การสนับสนุนในครั้งนี้

รากฐานความสำเร็จของสิงคโปร์บนเวทีโลก หลังจากที่ถูกขับออกจากมาเลเซีย

รากฐานความสำเร็จของสิงคโปร์บนเวทีโลก
ลี กวนยู

วิสัยทัศน์ในการพัฒนาประเทศของลีกวนยูนั่นก้าวหน้า เขาจะนำพาเกาะเล็ก ๆ และประชาชนให้ขึ้นเป็นประเทศอันดับหนึ่งให้ได้ ไม่ว่าจะด้านกองทัพ เศรษฐกิจ หรือแม้กระทั่งการศึกษา ด้านกองทัพในช่วงแรกกฎหมายเกณฑ์ทหารชายสิงคโปร์ทุกคนเป็นเวลาสองปี กฎหมายนี้ในปัจจุบันก็ยังคงอยู่  

นอกจากจะทำการเกณฑ์ทหารแล้ว แต่จำนวนคนในกองทัพยังน้อยอยู่ ในตอนนั้นทางสิงคโปร์ได้ติดต่อไปยังประเทศพันธมิตรต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น อังกฤษ อินเดียว อียิปต์ เป็นต้น แต่ทั้ง 3 ประเทศไม่ได้ให้การตอบรับกลับมา และประเทศที่ให้การตกลงที่จะมาทำการฝึกในด้านการรบให้นั้น คือประเทศอิสราเอล

ในด้านประชาชนการปรับให้คนสิงคโปร์ทุกคนนั้นมีความรู้สึกว่าตัวเองเป็นคนสิงคโปร์ ถ้าหากว่าคนในชาติยังมีความรู้สึกว่าพวกเขาเป็นคนจีนที่อพยพมาอยู่ชั่วคราวพร้อมที่จะตีจากไป คนทมิฬที่มาจากศรีลังกา วันหนึ่งที่อื่นดีกว่าก็คงจะไป ถ้าหากพวกเขาเป็นแบบนั้นคนสิงคโปร์จะไม่มีความรู้สึกยึดโยงเป็นส่วนหนึ่งของชาติ

ลีกวนยู และรัฐบาลสิงคโปร์ได้คิดว่าเบื้องต้นนั้นต้องทำให้คนในชาติรู้สึกว่าที่นี้เป็นบ้านของพวกเขาเสียก่อน ลีกวนยูจึงสร้างนโยบายเคหะแห่งชาติที่สร้างอพาร์ทเมนต์ให้คนในประเทศได้มีที่อยู่อาศัย

กระบวนการสร้างพลเมือง ซึ่งนโยบายสำคัญ คือ การที่ทุกคนได้รับการปฏิบัติอย่างเท่าเทียมทุกเชื้อชาติ และทุกศาสนา และในปัจจุบันนายกรัฐมนตรีคนล่าสุด หรือลูกชายของลี กวนยู กล่าวว่า พวกเราทุกคนควรปฏิบัติกันอย่างเท่าเทียม จะไม่ให้คนกลุ่มน้อยรู้สึกว่าไม่ได้รับความเท่าเทียม และนี่ถือว่าเป็นกุญแจสำคัญในการรวมใจให้คนสิงคโปร์มารักใครปองดองกัน

การนำประเทศก้าวเข้าสู่เวทีโลก นอกจาลี กวนยูที่มีส่วนสำคัญในการนำพาประเทศแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศ นั่นคือ ราชารัตนัม ปีแรกของลี กวนยู ในการเป็นผู้นำเขาได้เดินทางไปกระชับความสัมพันธ์กับหลากหลายประเทศเป็นเวลา 2 เดือน เพื่อเป็นการแจ้งให้ทั้งโลกรู้ว่าสิงคโปร์นั้นเป็นประเทศเอกราชเกิดใหม่ ที่พร้อมจะเชิญชวนให้ชาวต่างชาติเข้ามาลงทุนในประเทศ

ทั้งหมดนี้จึงทำให้สิงคโปร์ได้ก้าวเข้ามาเป็นประเทศอันดับหนึ่งที่มีการเติบโตเร็วที่สุด จนชาวโลกยอมรับ และวิสัยทัศน์อันก้าวไกลของลี กวนยู นั้นภาคภูมิใจจนเป็นที่กล่าวถึงในปัจจุบัน

🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃🎃 🎃 🎃