พระเยซู คือใครในประวัติศาสตร์

สวัสดีค่ะทุกคน หลายคนนั้นอาจจะเคยได้ยินเรื่องของ พระเยซู แต่บางคนนั้นอาจจะยังไม่รู้ว่าเขาคือใครในประวัติศาสตร์ วันนี้เราจะมาทำความรู้จักกับพระเยซูกันค่ะ หากใครนั้นชอบอ่าน ความรู้ทั่วไป นั้นเว็บของเราตอบโจทย์ทุกท่านได้มากที่สุด ซึ่งได้รับการสนับสนุนโดย ufath168

และแน่นอนว่าไม่อยากให้ทุกท่านนั้นพลาดบทความที่น่าสนใจอย่าง จดหมายลับล้มนาซี ด้วยนั่นเองค่ะ เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลาเรามาทำความรู้จักกับพระเยซูกันดีกว่าค่ะทุกคน

พระเยซู ในประวัติศาสตร์ เขาคือใครกันแน่

พระเยซู

ต้องบอกก่อนว่าเรื่องราวของพระเยซูนั้นเป็นเรื่องราวที่เล่าในมุมประวัติศาสตร์ได้ค่อนข้างยากเพราะว่ามีคนบันทึกถึงพระเยซูเป็นจำนวนมากเลยค่ะทั้งที่เป็นบันทึกลายลักษณ์อักษรในคัมภีร์ไบเบิ้ล หรือจะเป็นการบอกปากต่อปากของคนด้วยกันเอง

ด้วยความที่เรื่องราวของพระเยซูนั้นแตกออกเป็นหลายทางขนาดนี้ทำให้ความเห็นของนักวิชาการนั้นบางกลุ่มเชื่อว่าเป็นไปตามที่บันทึกไว้ บางกลุ่มนั้นเชื่อว่าตรงตามบันทึกบางส่วน รวมถึงบางส่วนที่บอกว่าพระเยซูนั้นไม่มีอยู่จริง พระเยซูนั้นอาจจะมีชีวิตคร่าว ๆ อยู่ตั้งแต่ 4 BCE – 30 CE

สถานที่ที่เรานั้นจะเล่าก็คือ อิสราเอล ซึ่งต้องบอกก่อนว่าความขัดแย้งของอิสราเอลนั้นได้เกิดมาตั้งแต่อดีตอันแสนนานเพราะว่าเป็นดินแดนที่อยู่กลางกลุ่มอำนาจมาตลอดประวัติศาสตร์ ซึ่งถ้าเราพูดถึงชาวยิวต้องยอมรับว่าพวกเขานั้นได้รับผลกระทบกับสิ่งนี้เยอะมาก ๆ เลยค่ะ

มีทั้งบังคับให้ย้ายที่อยู่ บังคับให้เป็นเชลย ชาวบาบิโลเนียนั้นได้มีกษัตริย์ขึ้นมาปกครองพระองค์หนึ่ง มีนามว่า Cyrus the Great พอขึ้นปกครองก็มีผลกระทบกับชาวยิวก็คือได้อนุญาตให้ชาวยิวนั้นเข้ามาอาศัยในดินแดนพันธะสัญญาของตนเองได้ ชาวยิวจึงได้ย้ายมาอยู่

แต่ไม่นานเมืองบาบิโลนก็แตกทำให้อำนาจนั้นมาจากสองฝั่งก็คือ ชาวกรีก กับ ชาวเปอร์เซีย ซึ่งกลุ่มที่สำคัญมาก ๆ เลยก็คือชาวกรีก เพราะว่าเป็นสมัยของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช ซึ่งอย่างที่เราเห็นแทบจะส่งผลกระทบกับทั่วทั้งโลกเพราะว่าแพร่อำนาจไปไกลมาก ๆ

ในช่วงนั้นชาวยิวก็คิดหนักเลยค่ะว่าเปอร์เซียกับกรีกนั้นจะเข้ามาโจมตีชาวยิวด้วยหรือไม่ จนกระทั่งเกิดเหตุการณ์ที่พระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราชนั้นได้ตายไป พอหลังจากนั้นได้เกิดจักรวรรดิย่อย ๆ ขึ้นมาเต็มไปหมด เพราะว่าทหารของพระเจ้าอเล็กซานเดอร์ที่ไปอยู่ตรงนั้นตรงนี้ก็ได้ก่อตั้งอาณาจักรเป็นของตัวเอง

พระเยซู

และแน่นอนว่าต้องมีอีกจักรวรรดิที่ได้ก่อตั้งขึ้นมาใกล้กับดินแดนของชาวยิวเอามาก ๆ โดยเราจะเรียกจักรวรรดินี้ว่า Seleucid Empire ซึ่งพวกเขาก็อยากจะเข้ามามีอำนาจเหนือชาวยิวแพร่ความเป็นกรีกเข้ามาให้กับชาวยิว ซึ่งชาวกรีกก็พยายามที่จะยัดเยียดวัฒนธรรมของตัวเองเข้ามานั่นเองค่ะ

ทำให้ชาวยิวจำนวนหนึ่งละทิ้งวัฒนธรรมของตัวเองมาสนใจวัฒนธรรมของชาวกรีกเพราะวัฒนธรรมของเขานั้นให้ความรู้สึกสูงส่งกว่าวัฒนธรรมชาวยิวเดิม ทำให้ชาวยิวบางกลุ่มนั้นโกรธมากและลุกขึ้นมาขับไล่ชาวกรีกให้ออกไปจากดินแดนและได้ก่อตั้ง hasmonean Dynasty ขึ้นมาค่ะ

แต่ก็ได้เกิดสงครามกลางเมืองขึ้นเพื่อที่จะหาคนสืบทอดบัลลังก์จึงมีการไปหาอำนาจภายนอกมาเพื่อหนุนหลังตนเอง นั่นคือการไปนำ จักรวรรดิโรมัน เข้ามาค่ะ ซึ่งบอกเลยว่างานนี้ปาดเหงื่อแน่นอน เพราะหลังจากนั้นไม่นานก็มีนายพลของโรมันเข้ามายึดอำนาจของชาวยิวค่ะ

ในสมัยของเฮโรสมหาราชหลังจากที่จักรวรรดิโรมันยึดอำนาจก็กำเนิดพระเยซูขึ้นมานั่นเองค่ะ ครอบครัวของพระเยซูนั้นเป็นช่างไม้และเป็นครอบครัวที่เคร่งครัดอย่างมาก ชาวยิวส่วนใหญ่นั้นจะเป็นคนที่มีความรู้เรื่องคำสอนต่าง ๆ อยู่แล้วเพราะเป็นคนที่ชอบศึกษาอยู่เสมอ

พระเยซู

ชาวยิวนั้นเชื่อว่าพระเจ้านั้นจะช่วยให้พวกเขาหลุดจากการปกครองของชาวโรมันเหมือนกับที่เคยช่วยให้หลุดพ้นจากชาวอียิปต์ แต่นั่นทำให้ชาวโรมันนั้นไม่ยอมนะคะพวกเขาจึงส่งทหารของฝั่งโรมันมาปกครองเมืองเยรูซาเล็มทำให้สถานการณ์ของชาวยิวและชาวโรมันนั้นตึงเครียดมาก

จนพวกเขานั้นคิดว่าพวกเขาอาจจะบูชาพระเจ้าไม่ดี หลังจากที่พระเยซูนั้นได้รับการล้างบาปแล้วนั้น พระเยซูก็ได้เดินทางเผยแพร่ศาสนาประมาณ 3 ปีค่ะ แต่มีเรื่องว่ากันว่าชาวยิวบางส่วนนั้นไม่พอใจในการเผยแพร่ศาสนาของพระเยซู

ด้วยความไม่พอใจพระเยซู จูดาสลูกศิษ์ของพระเยซูกับปุโรหิตนั้นก็ได้มีการไปจับตัวพระเยซูซึ่งจากหลักฐานพระคัมภีร์ไบเบิ้ลพระเยซูนั้นถูกไต่สวนทั้งหมด 2 รอบด้วยกันค่ะ จากผลการไต่สวนนั้นพระเยซูนั้นไม่ได้ผิดอะไรแต่ในตอนนั้นชาวยิวไม่พอใจในตัวพระเยซูมาก ๆ

จึงทำให้ชาวโรมันในตอนนั้นก็ไม่กล้าที่จะทำอะไรเพราะกลัวเกิดการจลาจลจึงให้ชาวยิวนั้นไปจัดการกันเองด้วยการ ตรึงพระเยซูบนไม้กางเขนและพระองค์ก็ได้สิ้นใจในวันนั้น สาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้พระเยซูนั้นถูกตรึงไม้กางเขนนั้นอาจจะมาจากการที่พระองค์ถือว่าตนคือ พระเมสิยาห์ ทำให้ชาวยิวนั้นโกรธค่ะเพราะพวกเขาไม่เชื่อว่านี่คือคนที่ถูกส่งมาเพื่อปลดปล่อยพวกเขานั่นเอง

📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖 📖