แพทย์นาซีกับวิธีล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว ทุกคนคงจะทราบกันดีว่าเผด็จการอย่างฮิตเลอร์ที่มีการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ชนชาติต่าง ๆ ให้เหลือแต่ชนชาติเยอรมันนั้นเป็นการสังหารล้างเผ่าพันธุ์ครั้งประวัติศาสตร์ที่โหดเหี้ยมที่สุดในยุคของสงครามโลกครั้งที่ 2 คำถามคือฮิตเลอร์ใช้วิธีใดในการคัดกรองประชาชนว่าเป็นเชื้อเยอรมันแท้ หรือเป็นชาวยิวกันแน่ วันนี้แอดมินจะมานำเสนอประวัติผู้อยู่เบื้องหลังอีกคนที่มีส่วนช่วยในการล้างเผ่าพันธุ์ในครั้งนี้
นอกจากนี้หากใครอยากรู้ที่มาของ จุดเริ่มต้นของสังคมมาเฟีย ว่าแท้จริงแล้วมาจากที่ใด โดยทางเราต้องขอขอบคุณ คาสิโนออนไลน์777 ในการสนับสนุนเรื่องราวประวัติศาสตร์ เว็บตรงออนไลน์อันดับหนึ่ง
🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃🎃 🎃 🎃
แพทย์นาซีกับวิธีล้างเผ่าพันธุ์ชาวยิว เผด็จการอย่างฮิตเลอร์ที่มีการกวาดล้างเผ่าพันธุ์ชนชาติ
🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃 🎃🎃 🎃 🎃
ก่อนอื่นเราต้องมาทำความเข้าใจของการวัดความบริสุทธิ์ของทางเชื้อชาติกันก่อน สุพันธุศาสตร์ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Eugenics เป็นอีกศาสตร์หนึ่งทางด้านพันธุศาสตร์ที่ใช้จัดการพันธุกรรมให้ดี เป็นการได้มาซึ่งพันธุ์ที่ดีของเชื้อชาตินั้น ๆ ซึ่งจากแนวคิดนี้เป็นการสะท้อนพื้นฐานของการที่มนุษย์แต่ละเชื้อชาตินั้นไม่เท่าเทียมกัน และถึงแม้จะเป็นคนเชื้อชาติเดียวกันก็มียีนต่าง ๆ ที่ไม่เหมือนกัน เมื่อธรรมชาติไม่อาจรังสรรค์ความสมบูรณ์แบบให้ได้ มนุษย์ก็คงต้องนำวิธีนี้มาจัดการด้วยกันเอง
ซึ่งคนที่นำวิธีมาใช้คู่กับการเมืองของพรรคนาซีในตอนนั้นก็คือ Josef Mengele โจเซฟ เมนเกเล นายแพทย์ปริญญาเอกด้านพันธุศาสตร์ และมานุษยวิทยาซึ่งมีความรู้ทางวิชาการเป็นเลิศ ซึ่งในช่วงสงครามโลกเขาได้สังกัดอยู่หน่วย Waffen-ss ซึ่งความรู้ของเขาได้คู่กับอุดมการณ์ของฮิตเลอร์ที่ต้องการแยกชาวยิวออกจากชาวเยอรมัน ซึ่งประจวบเหมาะกับปลายศตวรรษที่ 19 ที่มีการค้นสุพันธุศาสตร์เริ่มขึ้น
โจเซฟ เมนเกเลได้เข้าเรียนทางด้านการแพทย์ และมานุษยวิทยาของมหาลัยชื่อดังในเยอรมันก่อนจะสมัครเข้ามาเป็นหนึ่งในพรรคนาซี เมื่อจบการศึกษาได้นำหน้าที่เป็นแพทย์ประจำบ้าน และได้เรียนต่อปริญญาเอกจนจบจนทำให้เขาสนใจเรื่องของเชื้อชาติ และพันธุศาสตร์ ที่แน่นอนว่าคนแต่ละภูมิภาค แต่ละประเทศก็จะมีความแตกต่างกันไปตามสภาพแวดล้อม
โดยวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกของเขาคือการระบุชาติพันธุ์ขอมนุษย์ผ่านการดูเชิงลักษณะกายภาพของกระดูกขากรรไกรชิ้นล่าง เขามีความคลั่งไคล้ในชาติพันธุ์จนถึงขั้นตรวจลักษณะภายนอกของไอรีนภรรยาของเขาว่ามีเชื้อสายยิวหรือไม่ก่อนที่จะแต่งงาน ก่อนที่เขาจะได้ไปเป็นแพทย์ประจำที่ค่ายกักกันชาวยิวในโปแลนด์ หรือค่ายกักกันเอาต์วิช ที่มีการลมควันแก๊สผิด และเผาชาวยิวในเตาเผา
เขาได้รับฉายาว่า เทพแห่งความตาย เขาคลั่งไคล้ถึงขนาดที่ไปรอชาวยิวที่นำเข้ามาทางรถไฟเพื่อนำมาศึกษาอวัยวะภายในโดยไม่ฉีดยาสลบ และเย็บแผลกลับเข้าไป ฉีดสารเคมีเข้าลูกตาชาวยิวที่มีสีตาสองข้างไม่เหมือนกันแบบไม่มีการใช้ยาสลบ นอกจากนี้ยังศึกษาเรื่องของแฝดแท้แฝดเทียมโดยใช้คู่แฝดทั้งหมดถึง 150 คู่
โดยหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 จบลงถือว่าโจเซฟ เมนเกเลได้กลายเป็นอาชญากรที่โหดเหี้ยมที่สุดที่ต้องหลบหนีการจับกลุ่มถึงประเทศบราซิลก่อนที่เขาจะเสียชีวิตลงด้วยโรคเส้นเลือดในสมองแตก แต่เขาได้ใช้นามแฝงในการหลบหนี ซึ่งต่อมามีการนำดีเอ็นเอมาตรวจก่อนจะพบว่าเขาคือโจเซฟ เมนเกเลที่ลอยนวลมาได้หลายปี
