ชนเผ่าสุดลึกลับที่ไม่เปิดรับโลกภายนอก

เราจะมาพูดถึง ชนเผ่าสุดลึกลับที่ไม่เปิดรับโลกภายนอก โลกของเรายังคงมีชนเผ่าที่ไม่สื่อสารกับโลกภายนอกอีกมาก นักวิจัย หรือนักสำรวจได้มีการเดินทางเข้าไปพบกับชนเผ่ามาหลากหลาย บางชนเผ่าก็ต้อนรับเป็นอย่างดีมีการแลกเปลี่ยนวัฒนธรรม และวิถีชีวิต

ในขณะที่บางชนเผ่าก็ไม่เปิดรับ และมีการขับไสไล่ส่งอีกด้วย ก่อนจะไปทำความรู้จักกับชนเผ่าสุดลึกลับก่อนอื่นเลยเราขอแนะนำบทความที่น่าสนใจอย่าง สองพี่น้องชื่อดังในประวัติศาสตร์ และขอขอบคุณทาง Betflix ผู้สนับสนุนของเราในวันนี้ด้วยนะคะ

🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜

ชนเผ่าสุดลึกลับที่ไม่เปิดรับโลกภายนอก

🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜

ชนเผ่าสุดลึกลับที่ไม่เปิดรับโลกภายนอก

1.Mentawai Tribe

ชนเผ่าโบราณที่อาศัยอยู่บนผืนป่าฝนบนเกาะซีเบรุส ประเทศอินโดนีเซียนั่นเองค่ะ พวกเขาอาศัยอยู่ที่นี่มาหลายพันปีโดยไม่ถูกรบกวนจากโลกภายนอกเลย ไม่มีแสงไฟ ไม่มีเทคโนโลยีเข้ามาแทรกแซง ชีวิตอยู่ตามธรรมชาติ และการดำรงชีวิตแบบเรียบง่าย

พวกเขาสามารถสร้างบ้าน และสิ่งของเครื่องใช้จากไม้ไผ่ ผู้ชายนั้นมีหน้าที่ไปล่าสัตว์ มีหมอผีประจำเผ่าทำหน้าที่รักษาผู้คนในหมู่บ้าน เอกลักษณ์ของพวกเขาคือการเหล่าฟันให้แหลมคมเหมือนกับจระเข้ การที่จะได้มาซึ่งรอยสักเต็มตัวจะต้องสังหารศัตรูจำนวนมาก แสดงให้เห็นถึงความน่าเคารพนับถือ

ชนเผ่าสุดลึกลับที่ไม่เปิดรับโลกภายนอก

2.Korubo Tribe

ชนเผ่านี้เป็นชนเผ่าพื้นเมืองในบราซิล อาศัยอยู่ทางตะวันตกของลุ่มแม่น้ำอเมซอน อาศัยอยู่เป็นกลุ่มประมาณ 200 คนในป่าลึก มีอาวุธเป็นหอก และลูกดอกอาบยาพิษเพื่อใช้ในการล่าสัตว์ และป้องกันตัว พวกเขาสร้างที่อยู่อาศัยเป็นกระท่อม ไม่มีพิธกรรมทางศาสนาประจำเผ่าค่ะ

มีการนำสีแดงจากดอกไม้มาทาตัว อาหารหลักของพวกเขาคือหมูป่า นก ไก่ป่า และผลไม้ป่า เป็นต้นค่ะ เหตุการณ์ครั้งแรกของการเจอกันสำหรับบุคคลภายนอกกับชนเผ่า Korubo เกิดในปี 1972 มีคนจากสมาคมช่วยเหลือชนเผ่าถูกทำร้ายไปมากถึง 7 รายหลังจากที่ต้องการเข้าไปเชื่อมสัมพันธ์กับชนเผ่า Korubo

ชนเผ่าสุดลึกลับที่ไม่เปิดรับโลกภายนอก

3.Mashco-Piro Tribe

ชนเผ่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติมานูทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเปรู พวกเขานั้นตัดขาดจากโลกภายนอกอย่างสิ้นเชิง พวกเขายังคงใช้ชีวิตตามวิถีแบบดั้งเดิมที่พวกเขาเคยอาศัยกันมา การแต่งกายยังใช้วัสดุที่ทำจากไม้ หรือฟันของสัตว์ การสื่อสารกัน และกันยังใช้สัญญาณในการบอกกันอยู่

แต่เมื่อปี 2011 นิโคลัส ชาโค ฟลอเรส นักโบราณคดีที่สื่อสารกับชนเผ่านี้ได้ ได้เสียชีวิตหลังจากที่เขานั้นถูกลูกธนูยิงปักที่อกจนเสียชีวิตจากการที่พยายามเข้าไปศึกษาวิถีชีวิตของชนเผ่า Mashco-Piro หลังจากเหตุการณ์นี้ก็ไม่มีผู้พยายามเข้าไปอีกเลยค่ะ

🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜 🏜