ศึกษาวิวัฒนาการของหนังสือ

วันนี้เราจะมา ศึกษาวิวัฒนาการของหนังสือ เพราะว่าแค่ 1 เล่มมันก็อาจจะเป็นแค่กระดาษที่เปื้อนหมึกใช่มั้ยล่ะคะ เพราะมันสามารถสื่อความหมายของผู้เขียนออกมได้เท่านั้น แต่ถ้าลองคิดดูแล้ว กว่าที่หนังสือจะมีรูปเล่มแบบที่เราใช้กันอยู่ทุกวันนี้ มันได้มีการผ่านวันเวลา และพัฒนามาเป็นเวลานานเลยล่ะค่ะ เรื่องราวของหนังสือจะเป็นอย่างไร เดี๋ยวเรามาดูไปพร้อมกันค่ะ แล้วแอดมินก็ต้องขอฝากให้ไปติดตาม นักดนตรีที่ลงทุนขายวิญญาณ แล้ววันนี้แอดมินก็ต้องขอขอบคุณ คาสิโนอนไลน์ ที่สนับสนุนเราวันนี้ด้วยค่ะ

📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒

ศึกษาวิวัฒนาการของหนังสือ กว่าจะมาเป็นหนังสือ 1 เล่ม

ศึกษาวิวัฒนาการของหนังสือ
หนังสือ

เมื่อมนุษย์เป็นสัตว์ที่ทรงภูมิและมีความสามารถในการสื่อสาร ดังนั้นแล้วเมื่อพวกเราต้องการจะศึกษาอะไรและความนึกคิด และถ่ายทอดประสบการณ์ที่ได้พบออกมานั้น มนุษย์ในยุคก่อนประวัติศาสตร์ก็จะวาดรูปของสิ่งที่พบเห็น หรือเกิดขึ้นกับตนในชีวิตประจำวันเอาไว้บนผนังถ้ำ เหมือนที่ปรากฏอยู่ในถ้ำ Lascaux พี่ตั้งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศฝรั่งเศส บนผนังถ้ำนั้นมีภาพวาดโบราณมากกว่า 2000 ภาพ

โดยมีทั้งรูปสัตว์มนุษย์ และสัญลักษณ์ทางความเชื่อต่างๆ ซึ่งแม้ว่าจะไม่มีตัวอักษรปรากฏร่วมอยู่ด้วยอยากได้หนังสือที่เราได้อ่านกัน แต่การสื่อสารด้วยภาพเช่นนี้ ก็เปรียบได้กับเป็นหนังสือเล่มแรกของมนุษยชาติ ที่บันทึกเรื่องราวต่างๆ ให้กับบุคคลอื่นหรือชนรุ่นหลังอย่างเรา ได้ทราบถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้น นอกจากนั้นก็ยังมีภาพเขียนในยุคก่อนประวัติศาสตร์ อยู่ภายในถ้ำต่างๆทั่วโลก 

ศึกษาวิวัฒนาการของหนังสือ
หนังสือในปัจจุบัน

เช่นถ้ำ Magira ประเทศบังกาเรีย หรือว่าทำในออสเตรเลีย เป็นต้นส่วนในประเทศไทยของเรานั้น ก็ยังมีภาพวาดโบราณที่ถือได้ว่าเป็นหนังสือยุคแรกของโลกอยู่เช่นกัน ดังที่ปรากฏอยู่ที่อุทยานแห่งชาติผาแต้มจังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นภาพของสัตว์ และการดำเนินชีวิตประจำวันของบรรพบุรุษของเราในยุคสมัยนั้นค่ะ เมื่อมนุษย์มีวิวัฒนาการมากขึ้น เราก็พยายามค้นหาสิ่งที่สามารถบันทึกความคิด

หรือสิ่งที่เราต้องการสื่อความหมายออกไป ด้วยรูปแบบที่ง่ายขึ้น ดังนั้นแล้วเมื่อช่วงเวลา 3500 ปีก่อนคริสตกาลชาวเมโสโปเตเมีย จึงคิดประดิษฐ์แผ่นจารึกขึ้น โดยทำมาจากแผ่นดินเหนียว ซึ่งในขณะที่ทำการบันทึกนั้นผู้เขียนต้องรีบเขียนสิ่งที่เขาต้องการลงไป ในขณะที่แผนเจาะลึกนี้ยังเปียกอยู่ และตัวอักษรที่ชาวเมโสโปเตเมียใช้นั้นเป็น เป็นสิ่งบันทึกข้อความต่างๆมีชื่อเรียกว่าตัวอักษรคูนิฟอร์มโดยตัวอักษรชนิดนี้มีลักษณะเป็นรูปลิ่ม ดังนั้นแล้วจึงอาจเรียกตัวอักษรยูนิฟอร์มว่าตัวอักษรลิ่มก็ได้ค่ะ

คำว่าคูนิฟอร์มนั้นมาจากภาษาละตินว่าลิ่ม ตามลักษณะของตัวอักษรในตระกุลนี้ ด้วยเหตุนี้เองหนังสือในยุคหมดเมโสโปเตเมีย ซึ่งมีขนาดกะทัดรัด และสามารถสื่อความหมายได้ตรงกับความต้องการของผู้เขียนจึงได้ถือกำเนิดขึ้นในแหล่งอารยธรรมอันสำคัญของโลกนี้ค่ะ

📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒 📒