การหลอกลวงครั้งใหญ่ บนหน้าประวัติศาสตร์

วันนี้เราจะมาเล่า ความรู้ทั่วไป เกี่ยวกกับประวัติศาสตร์ การหลอกลวงครั้งใหญ่ ซึ่งบอกเลยว่าเป็นเหตุการณ์หนึ่งบนหน้าประวัติศาสตร์ที่ทุกคนนั้นอาจจะยังไม่รู้กันค่ะ แต่ก่อนที่เรานั้นจะไปติดตามบทความที่น่าสนใจนี้นั้น ก่อนอื่นเลยผู้เขียนอยากจะแนะนำบทความประวัติศาสตร์ที่ไม่ควรพลาด

ตอนนี้กระแสนิยมของก็อตซิล่ากับคองกำลังมาแรง แต่เราเคยสงสัยกันไหมคะว่าสัตว์ประหลาดสุดยิ่งใหญ่เหล่านี้นั้นอาศัยอยู่ที่ไหน และมีการตามล่าเกิดขึ้นจริงบนประวัติศาสตร์มนุษย์เราด้วยนะคะไปอ่านเรื่องราวนี้ได้ที่ การล่าไคจู นั่นเองค่ะ และต้องขอขอบคุณทาง ufath168 ผู้สนับสนุนหลักของทางเราด้วยเช่นกันนะคะ

การหลอกลวงครั้งใหญ่ บนหน้าประวัติศาสตร์ที่หลายคนอาจจะไม่เคยรู้

การหลอกลวงครั้งใหญ่

เรื่องราว การหลอกลวงครั้งใหญ่ นั้นจะเกี่ยวข้องกับการบริจาคที่เรียกว่า Donation of Constantine ใครที่ไม่เคยได้ยินชื่อนี้มาก่อนนั้นต้องบอกก่อนว่าชื่อนี้มาจากเอกสารการบริจาคครั้งใหญ่มาก ๆ เลยทีเดียวที่ทำให้ศาสนจักรนั้นเรืองอำนาจมาก ๆ ทำให้สามารถปกครองดินแดนต่าง ๆ ได้

เอกสารนี้ทำให้ศาสนจักรสามารถปกครองได้ยาวนานถึง 700 กว่าปีกันเลยทีเดียวค่ะ แต่ประเด็นก็คือ เอกสารบริจาคอันนี้เป็นของปลอม! นั่นเองค่ะทุกคน เรื่องราวของเราในวันนี้เกิดขึ้นในยุโรปสมัยยุคกลางประมาณศตวรรษที่ 5-15 นั่นเองค่ะ

ยุคนั้นต้องบอกเลยว่าเป็นยุคที่วุ่นวายพอสมควรมีทั้งกษัตริย์ปกครอง ขุนนางทั้งหลาย เพราะว่าในสมัยนั้นยุโรปยังไม่ได้เป็นประเทศเหมือนอย่างทุกวันนี้นะคะ เราจะไปลงดีเทลที่แถบยุโรปตะวันตกค่ะ บริเวณนั้นจะมีราชวงศ์ที่ปกครองแถบนั้นอยู่ชื่อว่า Merovingian Dynasty

ในตอนแรกของการปกครองราชวงศ์นี้ก็มีการปกครองปกติค่ะ แต่เมื่อเวลาผ่านไปอำนาจของราชวงศ์นั้นก็ลดลงเรื่อย ๆ อำนาจของขุนนางที่สำคัญที่สุดในเรื่องนี้ก็เรืองอำนาจมากขึ้นนั่นก็คือ Pepin the Short ตัวเปเป็งนั้นอาจจะไม่ดัง เราอาจจะไม่รู้จักกัน

แต่ลูกชายของเขานี่เป็นที่รู้จักอย่างแน่นอนค่ะ ซึ่งลูกชายของเปเป็งนั้นจะขึ้นมาปกครองและใช้ชื่อว่า Charlemagne ซึ่งจะขึ้นมาปกครองและเป็นกษัตริย์ที่สำคัญพระองค์หนึ่ง ในยุคสมัยของเปเป็งนั้นจะมีกลุ่มคนหนึ่งที่ถูกเรียกว่า Lombrads บุกเข้ามาพยายามจะยึดที่อะไรต่าง ๆ สารพัด

เปเป็งที่เป็นขุนนางคนสำคัญก็ต้องมาคอยจัดการ คอยต้านไว้ไม่ให้พวกนี้เข้ามายึดครองดินแดนไปได้ เปเป็งนั้นเห็นว่าตัวเองทำงานเกินหน้าที่ที่ควรจะทำแล้ว ตอนนั้นเขาเลยคิดว่าใครกันนะที่มีอำนาจเหนือกว่ากษัตริย์ซึ่งจะเป็นใครไปไม่ได้ถ้าไม่ใช่ศาสนจักรนั่นเองค่ะ

การหลอกลวงครั้งใหญ่

เปเป็งเลยได้เขียนจดหมายไปฟ้องพระสันตะปาปา เพื่อว่าเขียนไปแล้วศาสนจักรจะอยากดันเขาให้ขึ้นเป็นกษัตริย์แทนองค์ปัจจุบันแทน แต่จังหวะที่เปเป็งเขียนไปนั้นก็เป็นจังหวะเดียวกับที่ศาสนจักรทั้งสองฝ่ายนั้นก็คือ ศาสนจักรตะวันตกกับศาสนจักรตะวันออกกำลังตีกัน

เปเป็งนั้นได้ส่งจดหมายไปฟ้องกับทางศาสนจักรตะวันตกนะคะ ศาสนจักรตะวันตกจึงได้คิดว่าหากเขาดันเปเป็งให้ขึ้นเป็นกษัตริย์ได้นั้น เปเป็งจะรักทางศาสนจักรตะวันตกมากกว่า ทางศาสนจักรเลยตัดสินใจที่จะถอดกษัตริย์องค์เดิมออกแล้วยกเปเป็งขึ้นมาเป็นกษัตริย์แทน

ปรากฏว่าเปเป็งขึ้นมาเป็นกษัตริย์ได้ปีเดียวแล้วทำผลงานได้ดีมาก เรื่องที่ดูเหมือนจะไปได้ดีใช่ไหมคะ แต่พระสันตะปาปาที่ดีลกับเปเป็งไว้นั้นเกิดเสียชีวิต ทำให้ต้องแต่งตั้งพระสันตะปาปาองค์ใหม่ขึ้นมาแทน พระองค์นั้นรู้สึกว่าเปเป็งนั้นเก่งมากอยากจะไปพบด้วยตนเองสักครั้ง

จึงได้เดินทางไปพบกับเปเป็งตัวเป็น ๆ พระสันตะปาปาได้เดินทางมาถึงพร้อมกับเอกสารหนึ่งฉบับที่เราได้เล่าไปด้านบนนั่นคือ Donation of Constantine เพราะว่าตอนที่เปเป็งไปยึดที่ต่าง ๆ นั้นได้ที่ดินมาด้วย พระสันตะปาปาได้บอกว่า Constantine the Great เป็นคนเขียนขึ้นมา

การหลอกลวงครั้งใหญ่

สรุปคือพระสันตะปาปานั้นได้บอกว่าที่ดินที่เปเป็งไปยึดมานั้นเป็นที่ดินที่ Constantine เคยยกให้กับทางศาสนจักรเพราะฉะนั้นแล้วเปเป็งก็ต้องคืนให้ศาสนจักรเช่นเดียวกัน เปเป็งนั้นก็เลยยกที่ดินที่เขาไปตีมาได้ยกให้ศาสนจักรไปเลย และยังทำสัญญาเพิ่มอีก Donation of pepin อีกหนึ่งฉบับ

เอกสารฉบับนี้ได้มีการเขียนบริจาคต่อ ๆ กันมาหลายยุคต่อหลายยุคด้วยกัน เนื้อหาด้านในนั้นไม่ได้พูดถึงการยกที่ดินแต่รวมไปถึงอำนาจของพระศาสนจักรด้วยนั่นเองค่ะ ที่ไม่ว่าจะมีปัญหาใด ๆ เอกสารตัวนี้สามารถจัดการได้หมดเลย

จนกระทั่งปี 1440 เริ่มมีคนคิดแล้วว่าเอกสารเหล่านี้นั้นไม่ใช่เอกสารจริง เพราะมีกลุ่มเติร์กได้เข้ามาปลุกปั่น จึงได้มีคนไปรวบรวมเอกสารมาก่อนจะโดนพวกเติร์กทำลาย ทำให้มีคนพึ่งสังเกตว่าเอกสารเหล่านี้นั้นแปลก ๆ มีการสืบเรื่องเอกสารมาเป็นเวลานานก่อนจะมีการยอมรับว่าเอกสารข้างต้นนั้นเป็นเอกสารปลอม

และทุกครั้งที่มีการเขียนสัญญาจะเลิกอ้างอำนาจจากเอกสารฉบับนี้ แต่กว่าจะรู้นั้นก็ผ่านมาแล้วมากกว่า 700 ปีกันเลยทีเดียวค่ะ และเรื่องราวที่นำมาเล่าในวันนี้นับว่าเป็นการหลอกลวงที่ผ่านมานานถึง 700 ปีกว่าจะมีคนเปิดเผยเบื้องลึกเบื้องหลังกันเลยทีเดียวนะ